WELOVEMAHIDOL

เราเป็นหนึ่งกลุ่มของ นักศึกษา ของ "มหิดล"หนึ่งกลุ่มของหนุ่ม สาว ผู้เคยใช้ชีวิตปีหนึ่ง ใน มหิดล ศาลายาหนึ่งกลุ่มของ ควาทรงจำ ที่เคยไหลเวียน ณ มหิดล ศาลายา จึงเป็นที่มาของ "เรา รัก มหิดล" welovemahidol เพราะใครๆก็เคย มีความทรงจำดีดี
มหิดล ศาลายา ที่แห่งนี้เป็น เสมือนบ้าน มหิดล ศาลายา ที่แห่งนี้เป็น เสมือนกำลังใจ มหิดล ศาลายา ที่แห่งนี้เป็น เสมือนความทรจำ มหิดล ศาลายา ที่แห่งนี้เป็น เสมือนความรักอันหอมหวาน
เพราะเราเชื่อว่า นักศึกษา และ(อดีต)นักศึกษา ผู้ที่เคย ได้ใช้ชีวิต ช่วงเวลาที่ดีดี ณ มหิดล ศาลายา ณ ที่แห่งนี้ ยังคงมีเรื่องราว ความทรงจำที่ดี อันมีคุณค่ากับหลายคน แม้ว่า ปัจจุบัน มหิดล ศาลายา จะเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าใดก็ตาม แม้ว่าตึกกิจที่ใครหลายคน เคยได้ใช้ช่วงเวลาที่ดี นั้นไม่มีอีกแล้ว แต่เชื่อเถอะว่า ความทรงจำทีดีดีที่เราทุกคนยังเหลืออยู่ ก็ยังมีใคร อีกหลายคนที่คิดถึงเช่นกัน
มหิดล ศาลายา

วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

มหาวิทยาลัยสุขภาพ กับ สิงห์อมควัน




มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงทางด้านการแพทย์ และสาธารณสุข
โดยทางมหาวิทยาลัยได้มีโครงการส่งเสริม
สุขภาพแก่นักศึกษา บุคลากร เจ้าหน้าที่ประจำมหาวิทยาลัย ตลอดจนประชาชนทั่วไป อย่างสม่ำเสมอ
ทั้งที่ปรากฏออกมาในรูปแบบของการจัดกิจกรรมต่างๆ และในรูปแบบของการรณรงค์ประชาสัมพันธ์
เกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพในระดับเบื้องต้นนั้นมีหลายๆ ประเด็นที่น่าสมนใจ หนึ่งในหลายๆประเด็นนั้นคือ
"เรื่องการสูบบุหรี่"
ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลายาวนานไม่จบไม่สิ้นซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายมากในการค้นหาแนวทางบุติปัญหานี้
ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้อย่างมีประสบความสำเร็จ
ปัญหาการสูบบุหรี่ เรียกได้ว่าเป็นปัญหาระดับโลกก็ว่าได้
ซึ่งทุกคนคงทราบดีกันอยู่แล้วว่าการสูบบุหรี่นั้นเป็นสิ่งไม่ดี ทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ มากมาย
แต่ก็ดูเหมือนส่าบางคนรู้แล้วแต่ก็ยังทำ
เสมือนเป็นการพร้อมรับผลเสียที่จะเกิดขึ้นตามมาจากการสูบบุหรี่
ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้เป็นเรื่องจริงที่น่าเป็นห่วงมาก
โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาไม่นานมานี้ ได้มีข้อมูลใหม่ๆ ที่น่าตกใจมากกมาย
อาทิเช่น กลุ่มประชากรที่มีอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง คือ
กลุ่มเบาวชน 15-24 ปี
ประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ที่สูบบุหรี่ เริ่มสูบเมื่ออายุ 15-19 ปี
องค์การอนามัยโลกคาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีผู้สูบบุหรี่ถึง 13 ล้านคน
โดยผู้ชายไทยจะสูบบุหรี่น้อยลงแต่ผู้หญิงจะสูบเพิ่มมากขึ้น
ข้อมูลดังกล่าวข้างต้น ดูเผินๆ แล้วอาจไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เกินความคาดเดาของใครหลายคน
เนื่องจากในปัจจุบัน เราสามารถเห็นพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของเยาวชนทั้งชายและหญิงได้
ตามสถานที่เที่ยว ตามท้องถนน มุมอับตามห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ในสถานศึกษาเอง
จนบางครัง้สิ่งที่น่าตกใจเหล่านี้ได้กลายเป็นภาพชินตาของใครหลายคน
มิหนำซ้ำในบางโอกาศที่ได้ไปไหนมาไหนกับคนแก่ๆ รุ่นคุณปู่คุณย่า
เมื่อใดก็ตามที่คนเฒ่าคนแก่เหล่านี้ เห็นวัยรุ่นหัวเกรียนยืนสูบบุหรี่พ่นควันอย่างสบายอารมณ์
พวกท่านก็จะพากันตกอกตกใจ น้ำหมากระจาย
พร้อมเอ่ยประโยคประจำตัว "โอย เห็นแล้ว ยายจะเป็นลม"
แต่พวกเรากลับเห็นว่าอากัปกิริยาของพวกท่านเป็นเรื่องตลกสำหรับเรา
ซึ่งถ้าหากมองกันให้ลึกถึงประเด็นปัยหาเรื่องนี้แล้ว
มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อีกต่อไป
เนื่องจากในสมัยก่อนการสูบบุหรี่จะกระทำกันในหมู่ผู้หลักผู้ใหญ่
ซึ่งส่วนมากเป็นผู้ชาย โดยอาจจะสูบกันในสถานที่ที่ค่อนข้างรโหฐาน
ซึ่งจุดประสงค์ในการสูบบุหรี่นั้น อาจจะเพื่อคลายเครียดหรือการสังสรรค์ เป็นต้น
หากแต่ในปัจจุบันนั้นสถิติของอายุผู้สูบบุหรี่ เริ่มต้นเมื่ออายุยังน้อยนัก
อีกทั้งกระทำกันอย่างแพร่หลายทั้งชายและหญิง
ตัวสินค้าเองก็หาซื้อกันได้ง่ายตามร้านค้าหรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ
ซึ่งจะมองเห็นได้ถึงความสอดคล้องในอีกประการหน่งได้ว่า
"วัยรุ่น" จัดได้ว่ามีอัตราการสูบบุหรี่สูงขึ้นมาก
เนื่องจากวัยรุ่นนั้นเพิ่งก้าวข้ามความเป็นเด็ก
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังไม่เติบโตพอที่จะรับผิดชอบอะไรได้มากมายเหมือนผู้ใหญ่
ดังนั้น เมื่อความรู้อยากลองตามวิสัยของเด็ก
ประกอบกับภาวะที่อยากจะใช้ชีวิตได้อย่างเสรีตามแบบผู้ใหญ่
ทำให้การสูบบุหรี่ได้กลับกลายเป็รค่านิยมที่ผิดๆ ในหมู่วัยรุ่นบางกลุ่ม
อีกทั้งวัยรุ่นก็สามารถหาซึื้อบุหรี่ได้อย่างง่ายดาย
ด้วยปัจจัยทั้งหมดจึงนำมาซึ่งสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง
สืบเนื่องจากเรื่องราวทั้งหมดจะเห็นได้ว่า "มหาวิทยาลัยมหิดล"
มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับประเด็นปัญหานี้เนื่องจากนักศึกษาในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่แล้ว
ก็คือวัยรุ่นนั่นเอง อีกทั้งมหาวิทยาลัยคือสถานศึกษาที่พัฒนาคน
ให้ก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ที่มีท้งความรู้ในทางวิชาชีพที่ได้เล่าเรียนมา
และคุณธรรมในการใช้ชีวิต
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "มหาวิทยาลัยมหิดล"
เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านสุขภาพ
ดังนั้น มันก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดีถ้าหากนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมหิดล
จะเป็นส่วนหนึ่งในการเริ่มต้นที่จะลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ ให้เป็นตัวอย่างแก่บุคคลอื่นๆ
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งแก่ตัวนักศึกษาเองในด้านสุขภาพและเป็นการรักษาภาพพจน์ของสถาบัน
เนื่องจากหัวใจหลักของมหาวิทยาลัย ก็คือ "นักศึกษา"
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว หากการเลิกสูบบุหรี่คือการที่เรารักและศรัทธาในตนเอง
ก็ย่อมมีค่าเท่ากับการที่เรารักและศรัทธาในสถาบัน
เลิกสูบบุหรี่กันเถอะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น